ฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไร และห้ามทำอะไร วิธีให้โบท็อกซ์อยู่นาน

  • 24/04/2024
  • 1

การฉีดโบท็อกซ์คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว และทำงานลดลงชั่วคราว จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณที่มีการขยับเยอะ เช่น  หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา ร่องแก้ม นอกจากนี้ยังช่วยลดกล้ามเนื้อส่วนกราม ทำให้หน้าดูเรียวสวยขึ้นได้อีกด้วย

แต่แม้ว่าโบท็อกซ์จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลายคนก็ยังกังวล เพราะไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์อย่างไร หรือหลังฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้ยาวนาน บทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมทั้งก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ ตามไปอ่านกันได้เลย

 

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความชำนาญการ

การฉีดโบท็อกซ์จะต้องฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อใต้ชั้นผิวเท่านั้น ผู้ฉีดจึงต้องเป็นแพทย์ที่มีความรู้เรื่องกายวิภาคเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ หรือเทคนิคในการฉีด เพราะหากฉีดผิดตำแหน่ง จะทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ หรือโบท็อกซ์อาจกระจายตัวไปยังกล้ามเนื้อมัดอื่นจนทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปากเบี้ยว หนังตาตก 

เลือกใช้โบท็อกซ์ของแท้

การฉีดโบท็อกซ์ปลอมมีความเสี่ยงหลายอย่าง อาจจะฉีดแล้วไม่ได้ผล หรือได้ผลแต่อยู่ไม่นาน เสี่ยงต่ออาการแพ้ อักเสบ ติดเชื้อ เพราะความไม่บริสุทธิ์ของตัวยา หรือโบท็อกซ์ไหลไปบริเวณที่ไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นจึงควรศึกษาวิธีสังเกตโบท็อกซ์ยี่ห้อต่างๆ คอยดูว่าโบท็อกซ์ที่ทางคลินิกใช้เป็นกล่องใหม่ ขวดปิดสนิทแน่นหนา เลข Lot บนกล่องตรงกับบนขวด มีเลขอย. วันผลิต และวันหมดอายุ ชัดเจน 

งดยา อาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง และงดยา หรืออาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน, ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS, น้ำมันปลา,  วิตามินอี, สารสกัดจากแป๊ะก๊วย ฯลฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อลดการเกิดรอยเขียวช้ำจากอาการเลือดออกใต้ผิวหนัง

หากมีปัญหาสุขภาพ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน

อีกหนึ่งข้อสำคัญของการปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์คือ หากมีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัว มียาที่ทานเป็นประจำ แพ้ยา แพ้อาหาร เคยผ่าตัด ทำศัลยกรรม ทำหัตถการใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

 

ฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม ฉีดโบ กี่วันเห็นผล

ฉีดโบ กี่วันเห็นผลนั้น การฉีดโบท็อกซ์ไม่เจ็บ หรือเจ็บน้อยมากเหมือนโดนมดกัด เพราะก่อนฉีดจะมีการแปะยาชาให้ เข็มที่ใช้ฉีดก็มีขนาดเล็ก  หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์

 

หลังฉีดโบท็อกซ์ ห้ามทําอะไร วิธีทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้นาน

  • ห้ามบีบนวด กด คลึง บริเวณที่ฉีด 2 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลให้ยากระจายตัวไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ
  • ห้ามอยู่ในที่ร้อน เช่น ตากแดด ทำกิจกรรมกลางแจ้ง อบไอน้ำ ซาวน่า นั่งหน้าเตาอาหาร รวมถึงออกกำลังกายหนักๆ 2 สัปดาห์
  • พักการทำเลเซอร์ผิว อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์
  • หากมีรอยช้ำประคบเย็นได้ แต่ห้ามประคบอุ่น

วิธีที่จะทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานคือ หลังฉีดให้รีบขยับและเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง และบริหารกล้ามเนื้อไปเรื่อยๆ เป็นเวลา 30 นาที เช่น ขมวดคิ้ว ขยิบตา ยิ้ม หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายตัว และถูกดูดเข้าไปในเซลล์ประสาทให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้นพยายามใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดให้น้อย จะได้ไม่ไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ก็ควรศึกษาว่าหลังฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไรบ้าง มีสิ่งใดที่ต้องทำ หรือควรระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

 

หลังฉีดโบท็อกซ์ภายใน 2-3 วัน ฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไร  ?

คำถามที่พบบ่อยคือฉีดโบท็อกซ์ กินเหล้าได้ไหม ? แนะนำว่าไม่ควรดื่ม เพราะเหล้ามีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการกระจายตัวของโบท็อกซ์ นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่นๆ ที่ห้ามกินหลังฉีดโบท็อกซ์ ดังนี้ 

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เบียร์ สาเก โซจู
  • อาหารที่ต้องนั่งรับประทานหน้าเตาร้อนๆ เช่น ชาบู หมูกระทะ 
  • อาหารที่เผ็ดมาก จะทำให้เหงื่อออกเยอะ น้ำมูกไหล ไปสัมผัสโดนบริเวณรอยเข็ม เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • อาหารทะเลและอาหารหมักดอง เพราะเสี่ยงที่จะมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ทำให้เกิดการอักเสบได้  

 

ฉีดโบท็อกซ์ ข้อห้ามและข้อควรระวัง

ทั้งนี้ โบท็อกซ์เป็นข้อห้ามสำหรับคนบางกลุ่ม เช่น 

  • หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร 
  • ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ หรือส่วนประกอบของโบท็อกซ์
  • ผู้ที่มีปัญหาเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง 
  • ผู้ที่มีอาการติดเชื้อผิวหนังบริเวณที่จะฉีด ควรรักษาให้หายดีก่อน

นอกจากนี้ต้องระวังการทานยาหลังฉีดโบท็อกซ์เป็นระยะเวลา 4 เดือน เพราะตัวยาอาจไปเสริมฤทธิ์โบท็อกซ์ ทำให้เกิดผลข้างเคียง เป็นอันตรายได้ ตัวอย่างเช่น 

  • กลุ่มยาฆ่าเชื้อแบบฉีดที่ห้ามใช้หลังฉีดโบท็อกซ์ เช่น amikacin, colistin, polymyxin E, gentamicin, kanamycin, neomycin, netilmicin, plazomicin, polymyxin B, spectinomycin, streptomycin, tobramycin.
  • กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อที่ห้ามใช้หลังฉีดโบท็อกซ์ เช่น atracurium, cisatracurium, doxacurium, metocurine, mivacurium, pancuronium, pipecuronium, rapacuronium, rocuronium, succinylcholine, tubocurarine, vecuronium.
  • กลุ่มยาที่ใช้ได้แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น  ตาพร่า ปากแห้ง ได้แก่ ยาแก้แพ้, แก้หวัด, ยานอนหลับ, ยาต้านเกล็ดเลือด

 

   สนใจโปรแกรม โบท็อกซ์ แพทย์พร้อมออกแบบการ
รักษาเฉพาะบุคคล

ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก! 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไร

ฉีดโบท็อกซ์กินกาแฟได้ไหม 

กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีน ซึ่งมีฤทธิ์ที่ช่วยให้ใหลอดเลือดทำการขยายตัว แต่จะมีคาเฟอีนปริมาณเพียงเล็กน้อย จึงไม่ได้ส่งผลต่อใด ๆ ต่อการฉีดโบท็อกซ์ ดังนั้นสามารถดื่มกาแฟได้ตามปกติ

ทำไมต้องเคี้ยวหมากฝรั่งหลังฉีดโบท็อกซ์

การเคี้ยวหมากฝรั่ง จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้าหลังฉีดโบท็อกซ์ และยังช่วยให้โบท็อกซ์กระจายตัวและสามารถออกฤทธิ์ได้รวดเร็วขึ้น เพียงเคี้ยวครั้งละ 10 นาที หลังฉีด และไม่จำเป็นต้องเคี้ยวทุกวัน

ฉีดโบท็อกซ์ห้ามกินปลาร้ากี่วัน 

หลังการฉีดโบท็อกซ์ไม่ควรรับประทานอาหารดองเค็ม หรือปลาร้าภายใน 1 สัปดาห์ หลังฉีด รวมไปถึงเมนูหมักดอง ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อเชื้อโรคที่จะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของแผลได้