16 วิธีลดไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกิน ปลอดภัย ปรับหุ่นได้สัดส่วน
- 24/05/2024
- 1
หุ่นไม่เฟิร์มร่างไม่ฟิต น้ำหนักลดแต่ทำไมยังดูมีเซลลูไลท์ นั่นก็เพราะว่าเราอาจจะไปโฟกัสกับการลดน้ำหนักที่ลงเพียงแค่ตัวเลข แต่ภายในร่างก็ยังคงมีเจ้าก้อนไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ ทำให้ลดเกิดเป็นเซลลูไลท์ ผิวดูไม่สวยหุ้นดูไม่ฟิต หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าการลดน้ำหนักกับการลดไขมันแตกต่างกันอย่างไร บทความของเราในวันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับในมันส่วนเกินในร่างกายตนเอง พร้อมแนะนำวิธีการลดไขมันอย่างปลอดภัย
ไขมัน หรือไขมันส่วนเกินคืออะไร มีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร
ไขมันส่วนเกิน เกิดจากการที่ร่างกายของเราได้รับปริมาณของไขมันมากเกินความจำเป็น ทำให้ร่างกายไม่สามารถดึงไขมันเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นพลังงานและเผาผลาญได้ทั้งหมด จึงก่อให้เกิดเป็นก้อนไขมันสะสมตามบริเวณผิวหนังและกล้ามเนื้อรวมไปถึงบริเวณหน้าท้องหรือที่เรียกว่าพุงนั่นเอง ซึ่งกลุ่มไขมันส่วนเกินนี้ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย อาจก่อให้เกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วยเช่นกัน
หลายคนเข้าใจผิดว่าการลดไขมันก็คือการงดกินไขมันเท่านั้นก็จบ แท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้นเลย การลดไขมันที่ถูกต้องมีหลากหลายวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลได้จริงตามไปดูวิธีการลดไขมันในร่างกายที่ถูกต้องกันได้เลย
แนะนำ 16 วิธีลดไขมัน ในร่างกายให้ปลอดภัย
1. อันดับแรก วิธีลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ
เริ่มที่การออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้ดึงไขมันส่วนเกินนั้นออกมาใช้เผาผลาญและสร้างเป็นกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายกระชับ ผิวหนังไม่หย่อนคล้อย ลดการเกิดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม
2. ลดไขมันภายใน 1 เดือน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
เลือกทานอาหารที่ให้สารอาหารได้ครบถ้วนและครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายมีสมดุลและระบบเผาผลาญทำงานได้ดี อีกทั้งเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้วจะช่วยสร้างไขมันชนิดดีขึ้นมาทดแทน ลดการเกิดและสะสมของไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
เนื่องจากแอลกอฮอล์เมื่อเข้าไปในร่างกายและไม่ได้ถูกขับออกจะแปรสภาพเป็นไขมันส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้จำเป็นต้องใช้งาน มักก่อให้เกิดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง อีกทั้งยังทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงอีกด้วย
4. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ
การทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเช่น ไข่ เนื้อสัตว์ จะช่วยเสริมสร้างการเปลี่ยนสภาพจากไขมันเป็นกล้ามเนื้อ ควรทำควบคู่กับการออกกำลังกาย และควรทานในปริมาณที่พอเหมาะเนื่องจากโปรตีนเหล่านี้หากรับประทานในปริมาณมากจนเกินไปอาจทำให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลสูงจนเกินไปได้
5. ทานโยเกิร์ตทุกเช้า
โยเกิร์ตจัดเป็นอาหารว่างที่สามารถช่วยลดการทานมื้อจุกจิกลงได้มากทีเดียว อีกทั้งโยเกิร์ตยังสามารถช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้เป็นปกติ ลดการสะสมของไขมันในร่างกายได้ถึง 80%
6. น้ำมะนาวในตอนตื่นนอนก็ช่วยได้นะ
การทานน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นในช่วงเช้าจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี ควรทานอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ช่วยให้รู้สึกท้องโล่งสบายมากยิ่งขึ้น
7. หลีกเลี่ยงการทานของทอด
ของทอดเป็นแหล่งสะสมไขมันชั้นดี เนื่องจากน้ำมันที่ใช้ทอดมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูง หากรับประทานในปริมาณมากจะเกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกินได้
8. หลีกเลี่ยงการรับประทานของหวานระหว่างวัน
การทานของจุกจิก ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือน้ำหวานต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อาหารมื้อหลัก เนื่องจากขนมหรือของจุกจิกต่าง ๆ ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ได้จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่มักมีแป้งเป็นส่วนประกอบ แน่นอนว่านอกจากไม่ช่วยทำให้ไขมันลดลงแล้วยังเป็นตัวการในการเพิ่มน้ำหนักชั้นดีเลยทีเดียว
9. เติมไฟเบอร์ และธัญพืชให้กับร่างกายในมื้อว่าง
ไฟเบอร์หาได้จากผักและผลไม้ เช่น ถั่วฝักยาว แครอท บล็อกโคลี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ เสริมสร้างการขับถ่ายได้ดี
10. กระชับหน้าท้องด้วยเทคโนโลยี
เช่นการทำ Thermage Body เป็นหัตถการด้านการเสริมความงามที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถเห็นผลได้ไวทันใจ ช่วยกระชับหน้าท้องสำหรับคุณแม่หลังคลอด หรือต้องการกระชับสัดส่วน มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นกัน
11. วิธีลดไขมัน ที่หน้า ด้วยการเติมเมโสแฟต สลายไขมันส่วนเกิน
อีกหนึ่งหัตถการในการลดไขมันส่วนเกินตามร่างกายและใบหน้า นั่นก็คือการเติมเมโสแฟตเพื่อสลายไขมันหน้าท้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่นใบหน้า เหนียง ต้นแขน เป็นต้น
12. กำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดด้วย Coolsculpting
Coolsculpting เป็นนวัตกรรมในการเสริมความงามรูปแบบใหม่ที่สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกายออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการใช้คลื่นความเย็นที่จุดเยือกแข็ง 4 – 7 องศาเซลเซียส ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ลดไขมันได้อย่างถาวรและไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ผิว สามารถช่วยสลายไขมันต่อจุดได้สูงสุดถึง 25% ต่อครั้ง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ต้องการสลายไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายแบบปลอดภัยไม่ต้องเจ็บตัว
13. วิธีลดไขมัน เร็วที่สุด ด้วยการคุมแคลอรี่
การควบคุมปริมาณอาหารและแคลอรี่ในแต่ละวันอยู่ที่ 1,200-1.700 แคล/วัน เป็นปริมาณที่ร่างกายจำที่จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างเพียงพอ โดยไม่เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินเพิ่ม
14. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยได้
การดื่มน้ำในปริมาณมากจะช่วยคลายหิว ลดการทานอาหารที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญอีกด้วย
15. ลดไขมันแบบถูกวิธี ด้วยการลดความเครียด
ความเครียดจะสั่งให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ขาดสมดุล ทำให้เกิดอาการหิวบ่อย แต่ระบบเผาผลาญทำงานได้แย่ลง ซึ่งก่อให้เกิดไขมันส่วนเกินได้ง่ายจากการกินตามใจปากเพื่อคลายเครียด ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินไม่ควรเครียดหรือกดดันตนเองมากเกินไป ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จะได้ผลดีกว่า
16. ลดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล
การลดปริมาณคาร์โบไฮเดตรและน้ำตาลให้น้อยลงกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน จะทำให้ร่างกายไปดึงไขมันส่วนเกินมาเผาผลาญเป็นพลังงานแทน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีลดไขมัน
ทำยังไงถึงจะลดไขมันได้
การลดไขมัน ควรลดอย่างถูกวิธีและแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด ทำให้ร่างกายได้ดึงไขมันส่วนเกินออกมาเผาผลาญ สามารถทำได้ทั้งวิธีการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายควบคู่กัน หรือหากใจร้อนแนะนำวิธีการสลายไขมันแบบ Coolsculpting นวัตกรรมที่เห็นผลจริง แถมยังไม่เกิดอันตรายต่อเซลล์ผิว ช่วยสลายก้อนไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวรตรงจุดด้วยคลื่นความเย็น
กินอะไรลดไขมันเร็วที่สุด
- อาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ เช่น ข้าวซ้อมมือ ถั่วฝักยาว แครอท บล็อกโคลี่ กะหล่ำปลี ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอรี่
- อาหารที่ช่วยยับยั้งการผลิตไขมัน เช่น กระเทียม
- อาหารที่ให้ไขมันดีทดแทน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร เช่น ปลาแซลมอน วอลนัท อะโวคาโด เป็นต้น
ไขมันสูงห้ามกินผลไม้อะไร
ผลไม้ต้องห้ามนั่นก็คือ ทุเรียน ขนุน มะม่วงสุก และผลไม้ที่มีรสหวานจัด เนื่องจากผลไม้เหล่านี้มีปริมาณน้ำตาลสูงและบางชนิดยังแฝงไปด้วยไขมันอีกด้วยอย่างเช่นทุเรียน
ผักอะไรช่วยลดไขมันในเลือด
- กระเทียม
- กระเจี๊ยบทั้งเขียวและแดง
- หอมหัวใหญ่
- พริกชี้ฟ้า
- ถั่วแระญี่ปุ่น
- ผักตระกูลกะหล่ำ