สิวผดขึ้นหน้าเกิดจากผิวอ่อนแอ พร้อมวิธีรักษาสิวผดให้หายขาด ! 

สิวผดเม็ดเล็กๆ แต่เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน จะบีบออกก็ไม่ได้ เวลาแต่งหน้ายิ่งเห็นชัด ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่อย่าเพิ่งเครียด บทความนี้จะพาไปหาคำตอบว่าสิวผดเกิดจากอะไร และจะมีวิธีป้องกันหรือรักษาสิวผด ให้ผิวกลับมาเนียนสวยเหมือนเดิมอย่างไรบ้าง 

สิวผด คืออะไร เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษาให้หายขาด!

สิวผดคือ สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นเป็นจำนวนมาก คล้ายผดผื่น มีทั้งสิวชนิดที่ไม่มีหัว และสิวที่เป็นตุ่มน้ำ เวลาสัมผัสไปบนผิวจะรู้สึกได้ว่าผิวไม่เรียบเนียน สิวจำพวกนี้ไม่สามารถบีบออกได้ บางคนก็มีอาการคันร่วมด้วย มักจะเป็นๆ หายๆ มีโอกาสเป็นซ้ำได้ง่ายหากผิวอ่อนแอ

สิวผด เกิดจากอะไร

เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวกลับมาเป็นสิวผดซ้ำ ๆ ก็ต้องหาสาเหตุให้เจอว่าสิวผดเกิดจากอะไร จะได้ป้องกันถูก เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวผดในแต่ละคนอาจแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่เกิดจาก

1. สิวผดที่เกิดจากสภาพอากาศ

แสงแดด และสภาพอากาศร้อน ส่งผลให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ เมื่อเหงื่อออกมาเจอกับเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกบนผิว ก็ทำให้เกิดการอุดตัน ส่วนใหญ่สิวผดประเภทนี้จะสามารถหายได้เองเมื่ออากาศเย็นลง หรือบางคนเป็นเฉพาะช่วงเช้าและกลางวัน พอช่วงเย็นก็จะหายเป็นปกติ 

 

2. สิวผดที่เกิดจากมลภาวะ ฝุ่นPM 2.5

มลภาวะในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควันรถ ควันจากท่อไอเสีย รวมถึงฝุ่น PM 2.5 สามารถทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน เพราะเมื่อมลภาวะเหล่านี้สัมผัสกับผิว จะเข้าไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบ

 

3. สิวผดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

สิวผดเกิดจากพฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดสิว เช่น ล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งมาก ต่อมไขมันจึงผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้ผิวอุดตันง่าย หรือบางคนชอบเอามือไปจับหน้า สิ่งสกปรกบนมือก็จะไปสะสมอยู่บนหน้าด้วย รวมไปถึงความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุให้เกิดสิวได้เช่นกัน

 

4. สิวผดที่เกิดจากเกราะปกป้องผิวอ่อนแอ

เมื่อเกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) อ่อนแอ ผิวก็จะไม่มีปราการที่คอยรักษาความชุ่มชื้น หรือปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ สารเคมี ฯลฯ ทำให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ไวต่อการระคายเคือง จึงเกิดสิวได้ง่าย

 

บริเวณที่มักเกิด สิวผด

หน้าผาก

หน้าผากเป็นบริเวณที่มักจะมีสิวผดขึ้น เพราะเป็นบริเวณที่ผิวมันง่ายกว่าส่วนอื่นบนใบหน้า และยังพบได้บ่อยในคนที่ไว้ผมหน้าม้า หรือไว้ผมปรกหน้าผาก เพราะฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเส้นผมจะไปสัมผัสโดนผิว

แก้ม

สิวผดสิวอุดตันมักขึ้นที่แก้ม เพราะเป็นจุดที่คนเรามักเอามือไปสัมผัสอยู่บ่อย ๆ และยังพบมากในคนที่สวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ผิวจะเสียดสีกับหน้ากากจนระคายเคือง อีกทั้งยังมีความอับชื้นจากเหงื่อ และการสะสมของเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่างๆ หากจำเป็นต้องใส่ ก็ควรเลือกหน้ากากที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม ไม่บาดผิว และงดแต่งหน้าบริเวณใต้หน้ากาก เพื่อลดการอุดตัน

คาง

สิวผดที่คาง มักเกิดจากความมันบนใบหน้า เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ T-zone หรืออาจเกิดจากการสัมผัสกับสิ่งสกปรก เช่น การนั่งเท้าคาง เอามือจับคาง เป็นต้น

กรอบหน้า

สิวผดมักขึ้นบริเวณด้านข้างของใบหน้าลงมาถึงสันกราม เพราะเป็นบริเวณที่เหงื่อออกเยอะ หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ล้างหน้าไม่สะอาด แพ้แชมพูที่ใช้สระผม เป็นต้น

แผ่นหลังและหน้าอก

แผ่นหลังและหน้าอกเป็นบริเวณที่มีเหงื่อออกเยอะ ยิ่งใส่เสื้อผ้ารัดแน่น เนื้อผ้าหนา ระบายอากาศไม่ดี ก็จะทำให้เกิดการเสียดสี และอับชื้นมากขึ้น พบได้บ่อยในผู้ที่เล่นกีฬา หลังออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเสร็จจึงควรอาบน้ำทำความสะอาดผิวให้สะอาด เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค

 

วิธีรักษาสิวผดด้วยตัวเองง่าย ๆ

สิวผด รักษาได้ไม่ยาก เพียงแค่พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หมั่นดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว และรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี ดังนี้

1. การใช้ยา รักษาสิวผด

ตัวยาที่นิยมใช้รักษาสิวผด เช่น ยาที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole, ยาที่มีส่วนผสมของ Adapalene หรือที่รู้จักกันในชื่อ Differin, ยาที่มีส่วนผสมของ Zinc PCA หากไม่มั่นใจว่าควรใช้ยาชนิดไหน หรือยาแต่ละชนิดใช้อย่างไร ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนซื้อยามาใช้

2. การมาสก์หน้า ด้วยวิธีธรรมชาติ

การมาสก์หน้าด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ แตงกวา มะเขือเทศ จะช่วยลดอุณหภูมิผิว บรรเทาอาการระคายเคือง ทำให้สิวผดที่เห่อขึ้นมาสงบลง และยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย

3. การทำเลเซอร์ รักษาสิวผด

สิวผด รักษาได้ด้วยการทำเลเซอร์ เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด เห็นผลเร็ว และยังช่วยลดรอยสิว ทำให้ผิวใสขึ้น แต่อาจมีผลข้างเคียงทำให้ผิวบางลง ไวต่อแสง จึงต้องหมั่นทาครีมกันแดดอยู่เสมอ 

4. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

หากสิวผดอาการรุนแรง หรือลองทายาแล้วไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม 

 

 สรุป รักษาสิวผดกับเรา

การรักษาสิวผดสามารถทำได้หลายวิธี ในกรณีที่เป็นสิวผดไม่มาก สามารถใช้การทายา หรือมาสก์หน้าเพื่อบรรเทาอาการ แต่หากเป็นเยอะ เป็นๆ หายๆ กลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก แนะนำให้มาปรึกษาแพทย์ที่ AES CLASS CLINIC เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่ชัดเจน และทำการรักษาให้ตรงจุด เรามีโปรแกรมมากมายที่ช่วยรักษาสิวผดสิวอุดตัน เปลี่ยนผิวให้กลับมาเนียนสวย สุขภาพดี ปรึกษาปัญหาผิวฟรี ! แอดไลน์ @aesclassclinic

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวผดเกิดจากอะไร

ทําไงให้สิวผดหาย เร็วที่สุด

เริ่มด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวระคายเคือง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวอุดตัน และควรใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันการเกิดสิวผดเพิ่มเติม หรือหากใครที่สิวผดยังไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษา

สิวผดสามารถหายเองได้ไหม

สิวผดสามารถหายเองได้ในบางกรณี ซึ่งการดูแลผิวอย่างถูกต้องและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดสิวผดเพิ่มเติม หรือหากสิวผดไม่หายหรือมีอาการแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรับรักษาได้

สิวผดเม็ดเล็กๆ รักษายังไง

การรักษาสิวผดเม็ดเล็ก ๆ ควรเริ่มด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ระคายเคือง และใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมันจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมันให้ผิว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ และการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่อาจก่อให้เกิดการอุดตัน 

สิวผดไม่ควรใช้อะไร

สิวผดไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม หรือสารเคมีที่ระคายเคืองผิว เพราะอาจทำให้การอุดตันและการอักเสบแย่ลง ควรหลีกเลี่ยงการใช้สครับที่มีเม็ดหยาบ เนื่องจากจะทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น การสัมผัสหน้าและการกดหรือบีบสิวผดก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อและรอยแผลเป็นได้

กินอะไรลดสิวผด

การรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีและวิตามินอีสูง เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี กีวี และอะโวคาโด จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันการอักเสบของผิว นอกจากนี้ การกินอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และเมล็ดเจีย จะช่วยลดการอักเสบและทำให้ผิวดูสุขภาพดี หรือการดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวและการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงจะช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวผดได้อีกด้วย