ยกกระชับหน้ามีกี่แบบ ควรเลือกวิธีไหนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย?
- 30/08/2024
- 1
ยกกระชับหน้ามีกี่แบบ ควรเลือกวิธีไหนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย?
พออายุเริ่มเข้าเลขสาม ปัญหาผิวก็เริ่มตามมามากมาย โดยเฉพาะริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม แก่กว่าวัย ใครที่กำลังกังวลใจกับปัญหาเหล่านี้ บทความนี้มีทางออกดีๆ ที่จะช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึง ดูเรียบเนียนอีกครั้ง ไปดูกันเลยว่าการยกกระชับหน้ามีกี่แบบ ? และจะยกกระชับหน้าแบบไหนดี ?
ยกกระชับหน้า มีกี่แบบ
สำหรับคำถามที่ว่าวิธียกกระชับหน้ามีกี่แบบ ? หากแบ่งแบบกว้างๆ จะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
วิธียกกระชับหน้าแบบผ่าตัด
คือการทำศัลยกรรมยกกระชับ โดยการดึงผิวที่หย่อนมาเย็บให้ตึง และอาจมีการตัดผิวหนังส่วนเกินออกร่วมด้วย สามารถเลือกทำเฉพาะจุดที่ต้องการได้ เช่น ดึงหน้าผาก ดึงขมับ ดึงเหนียง เป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลดี อยู่ได้นานหลายปี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก แต่ข้อเสียคือจะเจ็บตัวมากกว่าวิธีอื่น มีความเสี่ยงมากกว่า และต้องพักฟื้นหลังผ่าตัด
วิธียกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัด
คนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น จะยกกระชับหน้าแบบไหนดี ? สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทาครีมบำรุงผิว, นวดหน้า, กัวซา, โยคะหน้า รวมถึงหัตถการต่างๆ ที่ช่วยยกกระชับผิว เช่น Hifu, Ulthera, Thermage, Emface, Morpheus8, โบท็อกซ์, ร้อยไหม เป็นต้น หัตถการเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ข้อดีคือสะดวก เห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ผลข้างเคียงน้อย แต่ผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว จึงต้องทำต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่นานขึ้น
เครื่องมือยกกระชับใบหน้า Hifu / Ulthera / Thermage/Emface/ Morpheus8
ถ้าถามว่าเครื่องมือยกกระชับหน้ามีกี่แบบ ? ตอบได้เลยว่าเยอะมาก เพราะปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย จึงขอแนะนำหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ได้แก่ Hifu, Ulthera, Thermage, Emface และ Morpheus8 จะมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ไปดูกัน
Thermage ยกกระชับใบหน้า
Thermage ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง CRF (Capacitive Monopolar Radiofrequency) ช่วยยกกระชับผิวหน้า โดยส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ความร้อนจะทำให้ชั้นผิวหดกระชับ และสลายไขมันใต้ผิว จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมถึงคนที่แก้มเยอะ เหนียงเยอะ อยากให้กรอบหน้าชัดขึ้น แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไขมันบนหน้าน้อยอยู่แล้ว ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
HIFU ยกกระชับหน้า
HIFU เป็นหัตถการที่ยิงพลังงานลงไปใต้ผิวเหมือนกัน แต่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ (High Intensity Focused Ultrasound) ข้อดีคือพลังงานลงไปได้ลึกกว่า Thermage ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ หรือชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า จึงให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวหน้าที่ดีกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้ 6-8 เดือน
Ulthera ยกกระชับหน้า
Ulthera มีหลักการทำงานคล้าย Hifu คือส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ไปที่ผิวชั้น SMAS แต่ดีกว่าตรงที่ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผลเรียลไทม์ จึงกำหนดตำแหน่งและระดับความลึกได้อย่างแม่นยำ ทำให้ยิงได้ตรงจุด อีกทั้งยังปล่อยพลังงานได้เสถียรกว่า ให้ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
Emface ยกกระชับหน้า
Emface จะส่งคลื่นพลังงาน HIFES และ Synchronized RF ลงไปยังชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นชั้นลึกที่สุดของผิวหน้า ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวอย่างรวดเร็วเสมือนการออกกำลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงก็จะมีแรงพยุงผิว ทำให้ผิวชั้นนอกเต่งตึง รูปหน้ากระชับขึ้น และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวยืดหยุ่น นุ่มเด้ง ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 16 เดือน
Morpheus8 ยกกระชับหน้า
Morpheus8 ต่างจากหัตถการอื่น เพราะเป็นการส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ RF (Radio Frequency) ผ่านเข็มเคลือบทองคำขนาดจิ๋ว (Gold Coated Micropins) ลงไปยังชั้นผิวหนังแท้หรือชั้นไขมัน ช่วยเปลี่ยนผิวยับให้อิ่มฟูดูสดใส ลดปัญหาริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี
วิธีการยกกระชับหน้าที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ?
- ทาครีมบำรุงผิว เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่จะเห็นผลช้า และต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ส่วนจะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวด้วย
- นวดหน้า คือการใช้มือหรืออุปกรณ์นวดไปตามจุดต่างๆ บนใบหน้า สามารถทำเองที่บ้าน หรือไปนวดที่ร้าน จะช่วยเพิ่มความกระชับยืดหยุ่น กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี ผิวพรรณก็จะดูเปล่งปลั่งสดใส
- โยคะใบหน้า คือการบริหารใบหน้าด้วยท่าโยคะต่างๆ ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ การไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวหน้าเฟิร์มกระชับ
- กัวซาหน้า คือการใช้แผ่นกัวซาขูดไปตามผิว และกรอบหน้า ให้ผลลัพธ์คล้ายกับนวดหน้า ช่วยขับสารพิษ ทำให้เลือดไหลเวียนดี รวมถึงช่วยยกกระชับผิวหน้า และชะลอการเกิดริ้วรอยได้ด้วย
สรุปยกกระชับหน้า มีกี่แบบ ควรเลือกอะไร
สรุปการยกกระชับผิวหน้ามี 2 แบบ คือ แบบผ่าตัด และไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแบบไม่ต้องผ่าตัดจะสามารถแยกย่อยได้อีกหลายวิธี ที่สามารถทำได้เอง เช่น ทาครีม, โยคะหน้า, กัวซา แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และอาจจะช่วยแก้ปัญหาได้เพียงเล็กน้อย หากใครอยากได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนรวดเร็ว สามารถใช้หัตถการอื่น เช่น Hifu, Ulthera, Thermage, Emface และ Morpheus8
สำหรับใครที่ลังเล ไม่รู้ว่าจะเลือกหัตถการยกกระชับหน้าแบบไหนดีนั้น สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ AES CLASS CLINIC เพราะปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกัน จึงต้องมีการวิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียดและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและคุ้มค่ามากที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยกกระชับหน้าแบบไหนดี
ยกกระชับหน้าด้วยเครื่องอะไรดี
การยกกระชับหน้ามีหลายวิธีที่ได้ผลดี ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละคน เช่น Ulthera ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วน Thermage ใช้คลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิว อีกทางเลือกคือ HIFU ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเข้มข้นในการกระตุ้นคอลลาเจน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อช่วยเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการยกกระชับใบหน้า
เครื่องยกกระชับหน้า ได้ผลจริงไหม
เครื่องยกกระชับหน้าได้ผลจริง เนื่องจากช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คลื่นเสียงความถี่สูง (Ulthera), คลื่นวิทยุ (Thermage), และคลื่นเสียงความถี่สูงเข้มข้น (HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2-3 เดือน
ยกกระชับหน้า อยู่ได้นานแค่ไหน
การยกกระชับหน้าด้วยเครื่องเช่น Ulthera, Thermage หรือ HIFU จะมีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษาของแต่ละบุคคล และควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
ทำไมต้องยกกระชับหน้า
การยกกระชับหน้าช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นและกระชับขึ้น ทำให้ผิวดูสดใสและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์ ทำให้เสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีและสดใสขึ้น
Tags