วิธีการรักษาหลุมสิว หลายคนคงหาวิธีเจ้าตัวปัญหาของผิวหน้าที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ…ปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของหลุมสิว…สำหรับหลุมสิวไม่สามารถหายเองได้ควรเข้ารับคำแนะนำและปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อเสนอแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหา แล้วหลุมสิวมีรูปแบบไหนบ้าง แก้ปัญหาด้วยวิธีไหน เรามีคำตอบ!

หลุมสิว (Acne Scars) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากการเกิดสิว โดยเฉพาะสิวประเภทที่มีการอักเสบหรือมีการสัมผัสที่ไม่ถูกต้อง เช่น การบีบหรือแกะสิว ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังและสร้างแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นหลุมหรือมีผิวไม่เรียบ ซึ่งหลุมสิวสามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตนเองและคุณภาพชีวิตของผู้ที่เผชิญปัญหานี้ได้ด้วย

แล้วหลุมสิวต่างจากแผลเป็นไหม?

หลุมสิวและแผลเป็นมีความแตกต่างกัน สามารถแยกความแตกต่างโดยลิสต์ออกมาได้ในแง่ของกายภาพ และลักษณะ สามารถแยกออกมาได้ดังนี้

ลักษณะของหลุมสิว

• เป็นรอยบุ๋มบนผิวหนัง เกิดจากการสูญเสียเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
• มักเกิดจากสิวอักเสบรุนแรงหรือการแกะสิว
• มีลักษณะเป็นหลุมตื้นหรือลึก ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบ
• สามารถเกิดได้ทั้งบนใบหน้าและส่วนอื่นของร่างกาย

ลักษณะของแผลเป็น

• เป็นรอยนูนหรือเรียบบนผิวหนัง เกิดจากการสร้างคอลลาเจนมากเกินไปในขณะที่ผิวหนังซ่อมแซมตัวเอง
• อาจเกิดจากบาดแผล แผลไหม้ หรือสิวที่อักเสบรุนแรง
• มีลักษณะนูนขึ้นหรือเรียบเสมอผิวหนัง อาจมีสีแดงหรือสีจางกว่าผิวปกติ
• สามารถเกิดได้ทั่วร่างกาย

ทั้งหลุมสิวและแผลเป็นอาจต้องการการรักษาเฉพาะทางเพื่อปรับปรุงลักษณะผิว ซึ่งวิธีการรักษาจะแตกต่างกันไปตามประเภทและความรุนแรงของรอยค่ะ

ทำ Skin Detox ราคาเท่าไหร่ อัปเดตล่าสุดปี 2567

สำหรับคนที่อยากปรับผิวหน้า ดูแลผิวให้ดีขึ้น โปรแกรม Skin Detox ถือเป็นอีกตัวเลือกดีๆ ช่วยดูแลผิว แบบไม่ต้องผ่าตัด! เช็กราคา Skin Detox เท่าไหร่ สามารถให้แพทย์ออกแบบและวิเคราะห์ปัญหาผิวได้ฟรี! 

หลุมสิวเกิดจากปัจจัยได้หลากหลายมากๆ ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่มักทำให้เกิดหลุมสิว ไม่ว่าจะเป็น

• การอักเสบของสิว สิวที่มีการอักเสบจะทำให้เกิดการสูญเสียเนื้อเยื่อผิว
• การบีบหรือแกะสิว ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิว และอาจสร้างแผลเป็น
• พันธุกรรม อาจมีบทบาทในการเกิดหลุมสิวและวิธีตอบสนองต่อสิวได้ด้วย

1. สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)

สิวอักเสบเป็นสิวที่มีอาการรุนแรง โดยมีลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม และเจ็บ ซึ่งการอักเสบเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังเกิดการบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียเนื้อเยื่อและสร้างหลุมสิว

2. สิวหัวดำและหัวขาว (Comedonal Acne)

สิวหัวดำและหัวขาวอาจไม่ทำให้เกิดหลุมสิวโดยตรง แต่ถ้าถูกบีบหรือแกะบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบและแผลเป็นตามมา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดหลุมสิวได้

3. สิวผด (Papular Acne)

สิวผดมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ แต่เมื่อมีการอักเสบและถูกรบกวนอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ และในระยะยาวสามารถพัฒนาเป็นหลุมสิวได้

1. หลุมสิวแบบ Atrophic

หลุมสิวประเภทนี้มีลักษณะที่เป็นหลุมหรือรอยบุ๋มในผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการสูญเสียเซลล์ผิวที่เกิดจากการอักเสบของสิว มักพบในผู้ที่มีประวัติเป็นสิวอักเสบหรือสิวผด

2. หลุมสิวแบบ Hypertrophic

หลุมสิวประเภทนี้มีลักษณะเป็นแผลเป็นที่ยกสูงกว่าพื้นผิวผิวหนัง เกิดจากการสร้างเนื้อเยื่อที่มากเกินไป เมื่อมีการบาดเจ็บที่ผิวหนังอย่างรุนแรง

การรักษาหลุมสิวแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงและประเภทของแผลเป็น ซึ่งแนะนำเป็นวิธีการรักษาหลุมสิวแต่ละแบบดังนี้

1. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

เลือกครีมที่มีส่วนประกอบของเรตินอยด์หรือสารผลัดเซลล์ผิว (Exfoliants) สามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและปรับปรุงผิวให้ดีขึ้น แต่วิธีนี้ค่อนข้างใช้เวลานานที่เห็นผลลัพธ์

2. การรักษาด้วยเลเซอร์

การใช้เลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง และจะช่วยทำให้พื้นผิวผิวเรียบขึ้น เป็นวิธียอดนิยม ปลอดภัย และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

3. การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์สามารถใช้เติมเต็มรอยหลุม เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียน และดูอิ่มน้ำมากยิ่งขึ้น

4. การทำ Microneedling

การใช้เครื่องมือที่มีเข็มเล็ก ๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาดีเหมือนเดิม เป็นอีกวิธียอดนิยมสำหรับคนที่ผิวเป็นหลุมสิวได้ง่าย

5. การทำ Pico Laser รักษาหลุมสิว

การทำ Pico Laser เพื่อรักษาหลุมสิวเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เทคโนโลยีนี้ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง  ซึ่งสามารถเจาะลึกลงไปใต้ผิวหนังได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายชั้นผิวด้านบน กระบวนการนี้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นและลดความลึกของหลุมสิว

ข้อดีของการทำ Pico Laser  ผู้รับการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผิวทุกสีโทน ไม่ว่าจะเป็นผิวขาว ผิวสีเข้ม หรือผิวเอเชีย โดยไม่ทำให้เกิดรอยดำหรือด่างขาว ความรู้สึกไม่สบายระหว่างการรักษาก็น้อยกว่าเลเซอร์แบบดั้งเดิม ทำให้ผู้รับการรักษารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

เลือกใช้ครีมบำรุงผิว

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ เรตินอยด์ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่, กรดไฮยาลูโรนิก ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และวิตามิน C ส่งเสริมการฟื้นฟูและช่วยให้ผิวกระจ่างใส

ดูแลผิวด้วยการสครับผิว

การสครับผิวเป็นระยะเวลาสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ เทคนิคนี้ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง

มาสก์หน้าเลือกใช้สูตรฟื้นฟูผิว

เลือกใช้มาสก์หน้าที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระหรือที่ช่วยในการรักษาได้

ปรับพฤติกรรมการดูแลผิว

เช่นควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปทุกครั้งเมื่อออกไปข้างนอก หมั่นทำความสะอาดใบหน้าเพื่อลดการเกิดสิ่งอุดตันและเชื้อโรค โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่รบกวนความชุ่มชื้นของผิว

หรือหากไม่มีเวลา และต้องการให้ผิวฟื้นฟูได้ไวหลังมีหลุมสิว แนะนำทำเลเซอร์ หรือ Pico Laser ที่คลินิกรักษาหลุมสิวที่ได้รับความไว้วางใจและมีรีวิวหลากหลายให้เราได้ดู

AES CLASS CLINIC มีเลเซอร์หลายชนิด แพทย์จะเลือกเลเซอร์ให้เหมาะกับชนิดแผลเป็น ซึ่งแต่ละเคสแพทย์จะวิเคราะห์ผิวให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งนวัตกรรมโดดเด่นของที่นี่คือ Pico Laser ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวที่เป็นหลุมสิว และเลเซอร์รอยสิว นอกจากนี้หลังทำไม่ต้องพักฟื้น และที่คลินิกมีติดตามเคสเพื่อดูแลผิวคุณ