CoolSculpting คืออะไร นวัตกรรมสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting เห็นผลจริงไหม
ปัญหากวนใจอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น ไขมันในร่างกาย หรือไขมันส่วนเกิน ไขมันสะสมเฉพาะจุด ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งไขมันสะสมเฉพาะจุดนั้น ลดได้ยากมาก แม้จะออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร แต่ถ้าทุกคนอยากแก้ไขปัญหาไขมันเหล่านี้ ตอนนี้มีเทคโนโลยี CoolSculpting นวัตกรรมสลายไขมันจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ใช่แค่กำจัด แต่สามารถฆ่าไขมันให้หายไปได้อย่างถาวร นอกจากนี้ยังช่วยกระชับสัดส่วนพร้อมรับหุ่นใหม่
CoolSculpting คืออะไร ? สลายไขมันด้วยความเย็น ทำไมน่าสนใจ
CoolSculpting คือ การสลายไขมันด้วยความเย็น โดยจะใช้ความเย็นในการช่วยสลายไขมัน ส่งผ่านความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งที่อุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซียลเซียส ในการทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกายแข็งตัวและสลายตัวเอง
CoolSculpting ‘การฆ่าไขมัน’ และกระชับสัดส่วนที่เกินมาให้หายไปด้วยความเย็น
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีบาดแผล
ทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกฆ่าไม่กลับมาอีก
ซึ่ง CoolSculpting ยังเป็นเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านการรับรอง มาตรฐาน โดยมาตรฐาน US-FDA สามารถลดจำนวนไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ซึ่ง CoolSculpting จะมีระบบ Freeze detect เครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป เหมาะสำหรับลดไขมันบริเวณที่ดื้อและไม่สามารถลดได้ด้วยวิธีอื่นไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย
ชั้นผิวที่ CoolSculpting รักษา
- รักษาบริเวณเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังจะอยู่บริเวณชั้นหนังแท้โดยตรง
- ช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนัง เน้นเจาะจงรักษาที่ชั้นเนื้อเยื่อไขมันเท่านั้น
- กำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผิวหนังและเนื้อเยื่ออื่นๆ โดยรอบไม่ได้รับผลข้างเคียง
เครื่อง CoolSculpting มีกี่หัว แต่ละหัวต่างกันอย่างไร เหมาะกับจุดไหน ?
ที่ AES CLASS CLINIC เรามี CoolSculpting ครบทั้ง 5 หัว ซึ่งจะช่วยสลายไขมันด้วยความเย็น แต่ละบริเวณของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น
- Cool Petite Advantage ใช้สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น เหนียงใต้คาง ท้องแขน หรือบริเวณที่มีไขมันไม่มาก
- Cool Advantage ช่วยสลายไขมันหน้าท้อง ต้นขาด้านใน ปีกด้านหลัง ฯลฯ
- Cool Advantage Plus บริเวณที่มีไขมันสะสมเป็นบริเวณกว้าง
- Cool Mini บริเวณที่มีไขมันไม่มาก เช่น เนื้อตรงรักแร้ และเข่า
- Cool Smooth Pro ใช้ในส่วนของหน้าท้องส่วนบน ห่วงยางรอบเอว ต้นขาด้านนอก ฯลฯ
สลายไขมันหน้าท้อง ราคาสุดคุ้มจาก AES CLASS CLINIC
ที่ AES CLASS CLINIC มีการอัปเดตแพ็กเกจการทำ CoolSculpting ราคาสุดคุ้มเป็นประจำ ลูกค้าสามารถเลือกแพ็กเกจการสลายไขมันด้วยความเย็นในราคาที่เหมาะสมกับคุณได้เลย! นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมยกกระชับ หลากหลายแบบเหมาะสำหรับทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็น Ulthera ยกผิว, Thermage FLX กระชับผิว ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
Coolsculpting
ที่ AES CLASS Clinic (เอสคลาสคลินิก)
ปรึกษาฟรี! พร้อมออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคุณ
เพียงเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ และพิมพ์ “Coolsculpting”
CoolSculpting ทำส่วนไหนบ้าง?
ในการสลายไขมัน หรือลดไขมันด้วยความเย็น การทำ CoolSculpting จะช่วยลดไขมันเฉพาะจุด บริเวณต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่
- ลดเหนียง ลดไขมันใต้คาง
- ลดไขมันต้นแขน เนื้อตรงรักแร้ และปีกด้านหลัง
- ลดไขมันหน้าหน้าท้อง
- ห่วงยางรอบเอว ท้องส่วนบนและส่วนล่าง
- สะโพก
- ก้น
- ลดไขมันต้นขาด้านในและต้นขาด้านนอก
CoolSculpting เหมาะกับใครและไม่เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีปัญหาไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย กังวลในรูปร่างและขาดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นต้นแขนใหญ่ ต้นขาเบียด สะโพกใหญ่ มีพุงบน พุงล่าง และขอบชีสเกินออกมาเมื่อสวมกางเกง หรือตรงจุดไหนที่จับแล้วสามารถหนีบไขมันติดมือขึ้นมาได้
นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการสลายไขมันในปริมาณปานกลาง หรือค่า BMI<35 หรือผู้ที่ไม่อยากผ่าตัดดูดไขมัน ไม่อยากมีแผล และไม่อยากพักฟื้นนาน
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการกำจัดไขมันด้วย CoolSculpting
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่เป็นโรคแพ้ความเย็น ได้แก่ ลมพิษจากความเย็น กลัวความเย็น
- ผู้ที่ติดอุปกรณ์ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดบริเวณที่ต้องการลดไขมัน
จุดเด่นของการสลายไขมันด้วย CoolSculpting
- สลายไขมันด้วยความเย็น สามารถสลายไขมันส่วนเกินที่เซลล์ไขมันได้โดยตรง
- ฆ่าไขมันและกำจัดออกจากร่างกายได้ ไม่เกิดเซลล์ไขมันขึ้นมาใหม่อีก
- ไขมันในร่างกายกระจายตัวอย่างสมดุล
- แก้ปัญหาไขมันส่วนเกินได้ตรงจุดมากกว่าวิธีอื่นๆ
- พุงยุบ สัดส่วนลดลงอย่างชัดเจน
- ไขมันที่เหลือจะเกิดการจัดเรียงตัวใหม่ทำให้ชั้นไขมันบางลงและสัดส่วนเล็กลง
ข้อดีของการสลายไขมันด้วย CoolSculpting
- รักษาด้วย CoolSculpting ครั้งเดียวก็เห็นผล
- เห็นผลการรักษาตั้งแต่หลังทำ ซึ่งการรักษาครั้งแรกไขมันจะลดลงถึง 25-30% โดยประมาณ
- ช่วยกำจัดไขมันแบบถาวร
- ระหว่างการรักษาด้วย CoolSculpting คนไข้สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ เช่น ดูหนัง ใช้โทรศัพท์ หรืออ่านหนังสือ ฯลฯ
- ไม่เจ็บตัว ไม่มีแผลผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
การเตรียมตัวก่อนกำจัดไขมันด้วย CoolSculpting
ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันผิวบริเวณที่มีไขมันจะต้องไม่มีรอยแผลหรือเป็นโรคผิวหนัง ทั้งนี้ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก สามารถรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติเหมือนก่อนทำทรีทเม้นท์ทั่วไป
ขั้นตอนการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting
- ก่อนรักษา แพทย์ผู้ชำนาญการจะประเมินร่างกาย วางแผนการรักษา กำหนดบริเวณที่จะทำการรักษา จำนวนหนีบ และหัว Applicator ที่ใช้
- ขณะรักษา แพทย์ทำการรักษาด้วยการติดตั้งเครื่องมือปล่อยความเย็น หรือ Applicator บริเวณที่ต้องการลดไขมันและปล่อยความเย็น โดยใช้เวลารักษาประมาณหนีบละ 35 นาที ขณะรักษาช่วง 5 นาทีแรก คนไข้จะรู้สึกเย็น ถูกดูดดึงและตึงๆ ผิว ก่อนจะรู้สึกชาเพราะความเย็นลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เมื่อรักษาเสร็จและนำเครื่องมือออกจากตัวคนไข้ พนักงานจะนวดผิวเพื่อกระตุ้นให้ไขมันสลายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพประมาณ 2-5 นาที
- หลังรักษา คนไข้อาจมีอาการผิวแดงหรือคันยิบๆ ใต้ผิวหนังบ้าง ซึ่งจะเกิดในช่วงแรกหลังการรักษา จากนั้นเซลล์ไขมันจะเริ่มตาย ผิวจะกระชับขึ้นเรื่อยๆ และเห็นผลรูปร่างกระชับได้สัดส่วนชัดเจนในเดือนที่ 3
ความรู้สึกขณะทำ CoolSculpting
ความรู้สึกขณะได้รับการรักษาด้วย CoolSculpting หรือ สลายไขมันด้วยความเย็น ผู้ที่รับการรักษาจะรู้สึกเย็นๆ และเมื่อมีแอพพลิเคเตอร์แตะบริเวณผิว ผิวจะรู้สึกเหมือนถูกดึงออกเบาๆ และในขณะที่กำลังรับการรักษาก็จะรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลายและสามารถทำกิจกรรมอื่นร่วมได้ เช่น การอ่านหนังสือ หรือนอนพักผ่อน
CoolSculpting ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
ผลลัพธ์ในการทำ CoolSculpting จะเห็นผลได้ชัดเจน เมื่อผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ – 1 เดือนหลังทำ และเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อผ่านไป 3 เดือน โดยจะรู้สึกว่าสัดส่วนลดลงอย่างชัดเจน และไขมันลดลงประมาณ 25-30% สามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์มากขึ้น
การดูแลตัวเองหลังกำจัดไขมันด้วย CoolSculpting
หากต้องการรักษารูปร่างที่กระชับได้สัดส่วนหลังกำจัดไขมันด้วย CoolSculpting คนไข้ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อคงสภาพหุ่นไว้ดีเหมือนเดิม
สลายไขมันด้วยความเย็น ได้ผลไหม
สำหรับการทำ CoolSculpting นั้นมีงานวิจัย 72 ฉบับรองรับ และมีผู้รับการรักษามากกว่า 8 ล้านคนทั่วโลกโดยผู้ลดไขมันด้วย CoolSculpting 95% พึงพอใจในผลลัพธ์
CoolSculpting ไม่ได้ผล เกิดจากอะไรได้บ้าง
สำหรับการทำ CoolSculpting แล้วไม่ได้ผล เคสนี้เกิดขึ้นได้หากใช้เครื่อง CoolSculpting ของปลอม ของเลียนแบบ หรือของที่ไม่มาตรฐาน นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ยังอาจเกิดอันตรายกับผิวของเราได้ด้วย เช่น ผิวไหม้ หรือทำให้รูปร่างไม่สมส่วน ไม่สมมาตร
ทำ CoolSculpting เจ็บไหม ?
การทำ CoolSculpting อาจทำให้รู้สึกไม่สบายเล็กน้อยในช่วงแรกที่เริ่มการรักษา โดยเฉพาะเมื่อเครื่องเริ่มทำความเย็นในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาจรู้สึกถึงความเย็นจัดและแรงดึงจากการดูดของเครื่องที่จับผิวหนัง แต่ความรู้สึกนี้มักจะค่อย ๆ หายไปเมื่อบริเวณนั้นเริ่มชา หลังจากการรักษาอาจรู้สึกตึงหรือมีความไวต่อการสัมผัสในบริเวณที่ทำการรักษา แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะหายไปภายในไม่กี่วัน และไม่รุนแรงจนกระทบต่อกิจวัตรประจำวัน
สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ไหนดี
หากต้องการเลือกคลินิกที่มีนวัตกรรม CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็นที่ได้มาตรฐานนั้น หลักๆ มีวิธีการเลือกดังนี้
- เลือกคลินิกที่บอกราคาและบริเวณหนีบที่รักษาชัดเจน
- คลินิกที่ใช้ตัวเครื่องและหัว Applicator ของจริงมาตรฐาน US-FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา
- ลูกค้าสามารถซื้อคอร์สได้ในราคาคุ้มค่า ที่ AES CLASS CLINIC เราสั่งซื้อหัวที่ใช้ในการรักษาล็อตใหญ่ ทำให้เราสามารถจัดแพ็กเกจที่คุ้มค่ามากที่สุดให้ลูกค้าของเรา
- รักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ด้านการทำ CoolSculpting
- มีการติดตามผลหลังรักษาอย่างต่อเนื่อง
ยกกระชับระดับเอสคลาส ที่ AES CLASS CLINIC พร้อมดูแลคุณทั้งรักสวยและรักษาดูแลผิวพรรณ ให้คุณรักตัวเองอย่างมั่นใจขึ้น ด้วยแพทย์เปี่ยมประสบการณ์ และเครื่องมือมาตรฐานระดับ Gold Standard ปรึกษาปัญหาผิวฟรี! ได้ที่ LINE
สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ที่ AES CLASS ดีอย่างไร ?
การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ที่ AES CLASS ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ใช้บริการ และยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น
- มีการใช้เครื่อง CoolSculpting ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ทำให้การสลายไขมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- มีทีมแพทย์และผู้ที่มีประสบการณ์สูงในการปรับแต่งการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- ให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามความคาดหวังและตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้ารับบริการให้ได้มากที่สุด
- การให้บริการที่เป็นมิตรและเอาใจใส่ลูกค้า ทำให้คุณรู้สึกสบายใจตลอดการรักษา
- บรรยากาศสะอาดและผ่อนคลาย
ยกกระชับระดับเอสคลาส ที่ AES CLASS CLINIC พร้อมดูแลคุณทั้งรักสวยและรักษาดูแลผิวพรรณ ให้คุณรักตัวเองอย่างมั่นใจขึ้น ด้วยแพทย์เปี่ยมประสบการณ์ และเครื่องมือมาตรฐานระดับ Gold Standard ปรึกษาปัญหาผิวฟรี! ได้ที่ LINE
เรื่องน่ารู้ก่อนดูดไขมัน
- ท่อที่ใช้ในการดูดไขมันต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 3 มิลลิเมตร และจำเป็นต้องฉีดยาชาในปริมาณมากในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน เพื่อควบคุมความเจ็บปวดระหว่างการรักษา การทำหัตถการนี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากการใช้ยาสลบมีความเสี่ยงสูงกว่าการใช้ยาชา
- หลังการดูดไขมัน ผู้ป่วยมักจะมีรอยบวมช้ำอย่างมาก เนื่องจากเส้นเลือดฝอยฉีกขาดขณะสอดท่อเข้าไปดูดไขมันในบริเวณต่าง ๆ โดยทั่วไปจะต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 เดือนเพื่อให้อาการปวดและบวมลดลง
- ปัญหาผิวไม่เรียบอาจเกิดขึ้นหลังการดูดไขมัน ซึ่งเป็นผลจากความบอบช้ำของเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นในระหว่างการสอดท่อดูดไขมัน หรืออาจเกิดจากการสอดท่อในแนวที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะคงอยู่ถาวรและไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเรียบเนียนได้เหมือนเดิม
- หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันก็มีโอกาสกลับมาสะสมได้อีก และไม่แนะนำให้ดูดไขมันซ้ำ ๆ หลายครั้ง เนื่องจากการทำซ้ำอาจก่อให้เกิดพังผืดใต้ผิว ผิวไม่เรียบและเกิดอาการบวมช้ำมากขึ้นในแต่ละครั้งที่ทำ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
CoolSculpting กี่วันเห็นผล
ผลลัพธ์ในการทำ CoolSculpting จะเห็นผลได้ชัดเจน เมื่อผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ – 1 เดือนหลังทำ และเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อผ่านไป 3 เดือน โดยจะรู้สึกว่าสัดส่วนลดลงอย่างชัดเจน และไขมันลดลงประมาณ 25-30%
CoolSculpting เป็นยังไง
CoolSculpting คือ การสลายไขมันด้วยความเย็น โดยจะใช้ความเย็นในการช่วยสลายไขมัน ส่งผ่านความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งที่อุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซียลเซียส ช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนัง เน้นเจาะจงรักษาที่ชั้นเนื้อเยื่อไขมันเท่านั้น
CoolSculpting เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีปัญหาไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย กังวลในรูปร่างและขาดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นต้นแขนใหญ่ ต้นขาเบียด สะโพกใหญ่ มีพุงบน พุงล่าง และขอบชีสเกินออกมาเมื่อสวมกางเกง
ทำ CoolSculpting เจ็บไหม?
การรักษาด้วย CoolSculpting ใช้ความเย็นผ่านชั้นผิวหนังลงสู่ชั้นไขมัน ขณะรักษาช่วง 5 นาทีแรก คนไข้จะรู้สึกเย็น ถูกดูดดึงจาก Applicator และตึงๆ ก่อนจะรู้สึกชาเพราะความเย็นลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ความรู้สึกระหว่างทำจะสบาย สามารถอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ระหว่างทำได้
CoolSculpting ทำนานไหม
การทำ CoolSculpting จะนับเป็นหนีบในแต่ละบริเวณ เช่น ต้นขาซ้าย 1 หนีบ ต้นขาขวา 1 หนีบ ซึ่ง 1 หนีบ จะใช้เวลาประมาณ 35 นาทีในการทำ
เครื่องสลายไขมัน อันตรายไหม
CoolSculpting เทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านการรับรอง มาตรฐาน โดยมาตรฐาน US-FDA สามารถลดจำนวนไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ซึ่งเครื่องสลายไขมัน CoolSculpting จะมีระบบ Freeze detect เครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไปด้วย
การดูแลหลังทำ CoolSculpting
หลังการรักษาที่ไม่มีบาดแผลใดๆ สามารถทำกิจวัตรประจำวันปกติได้ ไม่ต้องพักฟื้นผิว อย่างไรก็ตามควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง และควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย เพื่อคงรูปร่างสัดส่วนที่ดี
ข้อควรระวังในการทำ CoolSculpting
การทำ CoolSculpting สิ่งที่ต้องระวังก่อนทำ หากมีบาดแผล ผดผื่นบริเวณผิวหนัง หรือเป็นโรคผิวหนังตรงบริเวณที่ต้องการทำ ควรรักษาให้หายก่อน
CoolSculpting มีกี่หัว
ที่ AES CLASS CLINIC มีเครื่อง CoolSculpting 5 หัว ที่จะเข้ามาช่วยสลายไขมันด้วยความเย็น แต่ละบริเวณของร่างกาย
1. Cool Petite Advantage ใช้สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น เหนียงใต้คาง ท้องแขน หรือบริเวณที่มีไขมันไม่มาก
2. Cool Advantage สำหรับหน้าท้อง ต้นขาด้านใน ปีกด้านหลัง ฯลฯ
3. Cool Advantage Plus บริเวณที่มีไขมันสะสมเป็นบริเวณกว้าง
4. Cool Mini บริเวณที่มีไขมันไม่มาก เช่น เนื้อตรงรักแร้ และเข่า
5. Cool Smooth Pro ใช้ในส่วนของหน้าท้องส่วนบน ห่วงยางรอบเอว ต้นขาด้านนอก ฯลฯ