HIFU คืออะไร เจาะลึกการทำไฮฟู ช่วยอะไรได้บ้าง ทำกี่วันเห็นผล
ไม่มีความมั่นใจในโครงหน้าของตัวเอง หน้ากลมและไม่กระชับ อยากเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ปรับกรอบหน้าดูชัด ยกกระชับ เต่งตึงขึ้น แนะนำ โปรแกรม HIFU ยกกระชับใบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีพักฟื้น แล้วการทำ HIFU ช่วยทำให้หน้ายกกระชับขึ้น และผิวหน้าจะสามารถสร้างคอลลาเจนได้จริงไหม วันนี้มารู้ลึกเรื่องไฮฟูกันแบบเต็มๆ รวมถึงรีวิวการทำ HIFU และแพ็กเกจสุดคุ้มได้เลย
HIFU คืออะไร ทำไมถึงเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ
ไฮฟู คือนวัตกรรมหรือเครื่องมือยกกระชับผิว ที่ย่อมาจาก High Intensity Focused Ultrasound เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับได้ทั้งใบหน้า เหนียง ลำคอ ต้นแขน และต้นขา ช่วยให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และใบหน้าดูกระชับยิ่งขึ้น เป็นเครื่องมือยกกระชับผิว จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับรองความปลอดภัยจาก US FDA มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวด้วย
หลักการทำงานของไฮฟู (HIFU)
สำหรับหลักการทำงานของเครื่อง HIFU จะใช้ความร้อนระบบ ‘Focusing Ultrasound’ รูปแบบเส้นตรง (Linear) มีความลึกตั้งแต่ 1.5 – 4.5 มิลลิเมตร สามารถส่งผลใต้ชั้นผิวลึกชั้น ’SMAS’ ช่วยให้ชั้นหดตัว ใบหน้าจึงยกกระชับและริ้วรอยลดเลือนลง และพลังงานสามารถปล่อยความถี่ได้ถึง 1,000 ครั้ง/วินาที หลักการทำงานจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ปรับชั้นผิวให้จัดเรียงตัวใหม่ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน)
HIFU ช่วยอะไรบ้าง การทำไฮฟูดีจริงไหม
- การทำ HIFU ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่
- ช่วยให้ผิวยกกระชับ โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า เหนียง ลำคอที่มีไขมันสะสม
- ปรับผิวให้เนียนนุ่ม หน้าเรียบเนียนใส และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ลดริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม ลำคอ
- ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย เห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
HIFU เหมาะกับใครบ้าง
การทำไฮฟู เหมาะกับคนที่อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป เพราะใบหน้าของคนส่วนใหญ่ ประมาณ 90% จะเริ่มหย่อนคล้อยลง เนื่องจากคอลลาเจนในชั้นผิวลดต่ำลงเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้การทำ HIFU จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่มีริ้วรอยที่ยังไม่เยอะมาก
- ผู้ที่ต้องการกระชับผิวด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม
- ผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด มีไขมันบริเวณเหนียงและลำคอ
และการทำ HIFU ไม่เหมาะกับใคร
แต่ทั้งนี้ไม่เหมาะกับ สตรีมีครรภ์ หรือผู้ป่วยบางโรค สามารถปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินการรักษาอย่างถูกต้องก่อนทำได้
อายุไม่ถึง 25 ปี ทำ Hifu ส่งผลเสียหรือไม่ ?
การทำ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก เพื่อยกกระชับและปรับโครงหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น โดยทั่วไปแล้ว Hifu มักจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี การทำ Hifu อาจไม่จำเป็น เนื่องจากผิวในช่วงอายุนั้นยังมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติได้ดีอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม และร่องมุมปาก ที่ดูแก่กว่าวัย การเริ่มทำ Hifu ตั้งแต่อายุ 20 กว่า ๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสีย แต่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้ชำนาญการก่อนทำ Hifu เพื่อประเมินความจำเป็นและความเหมาะสมของการรักษาในช่วงอายุที่ยังน้อย
ทำ Hifu ส่วนไหนได้บ้าง ?
การทำ Hifu สามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ซึ่งรวมถึงหน้าผาก คิ้ว รอบดวงตา แก้ม ร่องแก้ม มุมปาก แนวกราม และคาง เพื่อยกกระชับผิวและลดริ้วรอย หรือบริเวณใต้คางและลำคอเพื่อลดความหย่อนคล้อยและปรับรูปหน้าให้คมชัด นอกจากนี้ Hifu ยังสามารถทำที่เนินอกเพื่อกระชับผิว ลดริ้วรอยบริเวณหน้าอก รวมถึงบริเวณหน้าท้องเพื่อลดความหย่อนคล้อยหลังการลดน้ำหนักหรือหลังคลอด และต้นแขนหรือต้นขาเพื่อลดความหย่อนคล้อยและปรับสัดส่วนให้ดูสมส่วนมากขึ้น
ทำ Hifu ใต้ตา
การทำ Hifu ใต้ตาเป็นวิธีที่ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้ตา ลดความหย่อนคล้อย และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นตามวัยหรือจากความเหนื่อยล้า โดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ส่งผลให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนและสดใสมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาและทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อยเป็นค่อยไปและดูเป็นธรรมชาติ
ทำ Hifu ลดแก้ม
การทำ Hifu เพื่อลดแก้มเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวบริเวณแก้มที่หย่อนคล้อย ช่วยในการสลายไขมันสะสมบริเวณแก้ม ซึ่งส่งผลให้แก้มดูลดขนาดลงและใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำ Hifu ลดเหนียง
การทำ Hifu เพื่อลดเหนียงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับและปรับรูปหน้าส่วนล่าง โดยเฉพาะบริเวณใต้คางหรือที่เรียกว่าเหนียง Hifu ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ทำให้ผิวบริเวณเหนียงกระชับขึ้น และช่วยลดความหย่อนคล้อย ช่วยสลายไขมันสะสมใต้คาง ทำให้เหนียงดูเล็กลงและแนวกรามคมชัดขึ้น
ทำ Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลจริงหรือไม่ ?
การทำ Hifu ทั่วทั้งตัวสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลาย ๆ บริเวณที่ต้องการยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย และสลายไขมันส่วนเกิน ได้แก่
- ใบหน้า เช่น คอ และเหนียง
- ร่างกาย เช่น ท้อง ต้นแขน ต้นขา และบริเวณอื่น ๆ
แม้ว่า Hifu จะเป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำได้ทั่วทั้งตัว แต่ผลลัพธ์อาจไม่เท่ากันในทุกบริเวณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้ชำนาญการเพื่อประเมินความเหมาะสมของการทำ Hifu ในแต่ละบริเวณและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทำ Hifu มีข้อดีอย่างไร ?
การทำ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้า ข้อดีเหล่านี้รวมถึง:
- ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีแผลเป็นหรือรอยแผลหลังการรักษา ทำให้ไม่มีความเสี่ยงจากการผ่าตัดและไม่มีการพักฟื้นนาน
- ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่สามารถส่งผ่านไปยังชั้นผิวลึกได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ทำให้การรักษาปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี
- ฟื้นฟูคอลลาเจนในผิ ซึ่งช่วยให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ และอ่อนเยาว์มากขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์จากการทำ Hifu สามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือนถึงหลายปี
- สามารถทำได้หลายบริเวณของร่างกาย เช่น ใบหน้า คอ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ซึ่งช่วยให้สามารถยกกระชับและปรับรูปทรงในบริเวณที่ต้องการ
- หลังการทำ Hifu สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น
Hifu มีกี่แบบ อะไรบ้าง ?
เครื่อง Hifu มีหลายเกรดและยี่ห้อ โดยยี่ห้อที่ถือว่าดีที่สุดคือ Ulthera SPT ซึ่งมีพลังงานสูงและให้ผลลัพธ์ที่คงทน รองลงมาคือ Ultraformer 3 ซึ่งเป็น Hifu ที่มีคุณภาพดีที่สุดรองจาก Ulthera SPT เนื่องจากใช้พลังงานแบบ Macrofocus และมีรอบการปล่อยพลังงานที่รวดเร็ว ทำให้เจ็บน้อยลง สามารถใช้พลังงานสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหัวยิงให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมียี่ห้ออื่น ๆ เช่น Exilis และ Smazlift ซึ่งมีคุณภาพลดหลั่นลงมา และยังมียี่ห้อเกรดต่ำอื่น ๆ อีกหลายยี่ห้อ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำ Hifu ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องที่ใช้ในโปรโมชั่นของคลินิกนั้น ๆ ว่าเป็นยี่ห้ออะไรและมีคุณภาพดีเพียงใด รวมถึงตรวจสอบเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการไม่จำกัดจำนวนไลน์ในการยิง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่คุ้มค่าตามราคาที่จ่ายไป และจะไม่ผิดหวังในภายหลัง
เลือกทำ Hifu ที่คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu เกินจริง
บางคลินิกอาจแนะนำให้ใช้ Hifu หรือ Ulthera SPT สำหรับแก้ไขร่องใต้ตาและร่องแก้มลึก เนื่องจากราคาแพงกว่าฟิลเลอร์ แต่ในความเป็นจริง หากร่องลึกมาก การใช้ฟิลเลอร์จะเป็นทางแก้ที่ตรงจุดและเห็นผลได้ชัดเจนทันทีในราคาที่ประหยัดกว่า
ตามทฤษฎีใน Textbook แนะนำให้ทำ Hifu ก่อนการทำฟิลเลอร์ แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ป่วยมักไม่พอใจเพราะ Hifu อาจให้ผลลัพธ์เพียง 10-20% ของที่คาดหวัง แม้ว่าจะต้องจ่ายเงิน 2-3 หมื่นบาทก็ตาม ซึ่งในจำนวนเงินเท่ากัน ผู้ป่วยมักพอใจมากกว่ากับการทำฟิลเลอร์ใต้ตาหรือร่องแก้มก่อน เพราะให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ถึง 80-90% ซึ่งหากมีงบประมาณเหลือจึงค่อยพิจารณาทำ Hifu เพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม
Hifu สามารถใช้เก็บรายละเอียดหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ได้ และหากใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ฟิลเลอร์จะไม่ละลาย การทำ Hifu Macrofocus หรือ Ulthera SPT อาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กลัวการฉีด แม้ว่าจะต้องทำหลายครั้งและใช้งบประมาณสูงกว่าฟิลเลอร์แต่ก็สามารถได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
เลือก ทำ Hifu ที่คลินิกไหนดี ควรพิจารณาตามลำดับความสำคัญดังนี้
ยี่ห้อของเครื่อง Hifu มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน การทำ Hifu ที่เห็นผลชัดเจนและคงทนยาวนานขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องที่ใช้เป็นหลัก หากใช้เครื่องเกรดต่ำ อาจเกิดปัญหาตามมาดังนี้
- พลังงานไม่คงที่ บางไลน์อาจแรงเกินไปจนหมอไม่กล้าใช้พลังงานสูง เพราะเสี่ยงต่อการทำให้ผิวไหม้ หน้าบวม หรืออาจกระทบต่อเส้นประสาททำให้หน้าเบี้ยวได้
- พลังงานที่ไม่โฟกัส บางจุดร้อนเกินไป บางจุดไม่ร้อน ทำให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ
- รอบการประมวลผลในการปล่อยพลังงานก็ช้าลง ทำให้การยิงใช้เวลานานขึ้นและเจ็บมากขึ้นโดยได้ผลไม่ต่างจากเดิม
- ใน 1 หัวยิง ที่มักมีจำนวนไลน์ เช่น 20,000 ไลน์ ไลน์แรก ๆ จะมีพลังงานสูง แต่พลังงานจะลดลงในไลน์ท้าย ๆ ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ลดลงตามไปด้วย
ราคาและความคุ้มค่า ปรียบเทียบราคาในคลินิกต่าง ๆ โดยไม่ควรเลือกเพียงเพราะราคาถูกที่สุด แต่ควรพิจารณาราคาที่สมเหตุสมผลตามมาตรฐานของบริการที่ได้รับ ตรวจสอบว่าราคาที่เสนอรวมค่าบริการทั้งหมดหรือไม่ เช่น ค่าปรึกษา ค่าติดตามผลหลังการรักษา
ความชำนาญการของแพทย์ เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ในการทำ Hifu แพทย์ที่มีความรู้และทักษะจะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องและปรับการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิว
การให้คำปรึกษาและบริการหลังการรักษา คลินิกที่ดีควรมีการให้คำปรึกษาเบื้องต้นกับแพทย์ก่อนการรักษา เพื่อประเมินสภาพผิวและตอบข้อสงสัยต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรมีบริการติดตามผลและให้คำแนะนำหลังการรักษา
HIFU ราคาและแพ็กเกจสุดคุ้ม เฉพาะที่ AES CLASS CLINIC
ทำ HIFU ด้วยเครื่อง HIFU เกรดพรีเมียมจากเกาหลี ในราคาสุดคุ้มที่ AES CLASS เรามีแพ็กเกจและโปรโมชั่นอัปเดตอยู่ตลอดสามารถทักสอบถาม หรือประเมินผิวฟรี โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมออกแบบราคาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด และพร้อมรับโปรโมชั่นราคาสุดคุ้มกันได้เลย นอกจากนี้เรายังมีทรีทเม้นท์อื่นๆ ทั้ง Ulthera ช่วยยกกระชับผิวและ Thermage ช่วยกระชับผิว อีกด้วย
Hifu
ที่ AES CLASS Clinic (เอสคลาสคลินิก)
ปรึกษาฟรี! พร้อมออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคุณ
เพียงเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ และพิมพ์ “Hifu”
การเตรียมตัวทำ HIFU มีอะไรบ้าง
ก่อนทำ HIFU ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
ก่อนการทำ HIFU ควรเตรียมตัวตามลิสต์นี้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของการทำ HIFU ได้ ไม่ว่าจะเป็น
- ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- ควรงดรับประทานยาแอสไพริน หรือกลุ่มยาที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
- พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมร่างกายให้พร้อม รวมถึงรับประทานที่มีประโยชน์
- งดตากแดดจัด อาบแดด หรือซาวน่าก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผิวไม่ให้ระคายเคือง
ระหว่างการทำ HIFU มีขั้นตอนอะไรบ้าง
- ผู้รับบริการปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้า และประเมินจำนวน Lines ในการยกผิว พนักงานทำความสะอาดผิวหน้าให้ผู้รับบริการ
- พนักงานทายาชาทั่วใบหน้าและลำคอให้ผู้รับบริการ จากนั้นรอยาชาออกฤทธิ์ ประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง
- พนักงานเช็ดยาชาออก และลงเจลบริเวณที่หัวเครื่องมือสัมผัสกับผิวหน้า
- แพทย์ใช้เครื่อง HIFU ทำการรักษาตามจำนวน Lines ที่ประเมิน โดยใช้เวลาทำประมาณ 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวน Lines ทั้งนี้ขณะรักษา ผู้รับบริการจะรู้สึกอุ่นๆ ใต้ชั้นผิว
หลังทำเสร็จพนักงานเช็ดเจล ทำความสะอาดผิว ทาครีมบำรุง และกันแดด ผลลัพธ์ผิวยกกระชับขึ้นตั้งแต่หลังทำและเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 1 เดือน และผลจะอยู่ได้นาน 6-8 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล)
การดูแลตัวเองหลังทำ HIFU และข้อห้ามหลังทำ HIFU
หลังทำ HIFU งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมถึงการสูบบุหรี่ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะแอลกอฮอล์ และนิโคตินจะไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ที่ใต้ผิวหนัง และควรทากันแดดเป็นประจำ ดื่มน้ำเยอะๆ งดการสครับผิวหรือขัดถูใบหน้าแรงๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
ทำ Hifu เจ็บไหม ?
การทำ Hifu อาจมีความรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยในระหว่างการรักษา ความรู้สึกนี้มักเป็นความรู้สึกอุ่นหรือแสบเล็กน้อยใต้ผิวหนังเมื่อคลื่นอัลตราซาวด์ส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวลึก ระดับความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและบริเวณที่ทำการรักษา บางคนอาจรู้สึกเจ็บมากกว่าคนอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความไวต่อความรู้สึกและความหนาของผิวหนัง
หลังทำ Hifu จะมีผิวแดงระเรื่อๆ หลังทำ และสามารถอยู่ได้ 6 เดือน – 1 ปี
ทำ Hifu กี่วันเห็นผล ?
หลังจากทำ Hifu อาจเริ่มเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นภายใน 1-2 สัปดาห์แรก โดยผิวจะเริ่มรู้สึกกระชับขึ้นและดูยกกระชับเล็กน้อย และผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังการรักษา เนื่องจาก Hifu ทำงานโดยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว
ทำ Hifu อยู่ได้นานกี่เดือน ?
ผลลัพธ์จากการทำ Hifu สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาหลังการทำ Hifu แนะนำให้ทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนานและคงความกระชับของผิว
HIFU แตกต่างจากหัตถการอื่นๆ ในเรื่องไหนบ้าง?
เปรียบเทียบ HIFU VS ULTHERA
Ulthera และ HIFU เป็นเทคนิคยกกระชับผิวด้วยกลไกการทำงานเหมือนกันคือ ส่งคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูงไปที่เนื้อเยื่อในชั้นผิว SMAS ช่วยกระตุ้นให้ชั้นผิวหดตัว ให้หน้ายกกระชับ ลดริ้วรอยต่างๆ สิ่งที่แตกต่างคือระยะเวลาของผลลัพธ์ Ulthera ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-1.5 ปี ส่วน HIFU อยู่ได้นาน 6-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำของแต่ละบุคคลด้วย
เปรียบเทียบ HIFU VS โบท็อกซ์
HIFU กับ โบท็อกซ์เป็นหัตถการที่เข้ามาช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า แต่จะแตกต่างกันทางเทคนิค โบท็อกซ์จะเป็นตัวยาที่เข้าทำงานให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง ลดริ้วรอยตาม ส่วน HIFU จะเป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ยิงรักษาลงชั้นผิว ให้ผิวยกกระชับขึ้น ทั้งนี้การทำ HIFU สามารถทำร่วมกับโบท็อกซ์ได้โดยหลังทำโบท็อกซ์ ควรเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ จึงรักษาด้วย HIFU
Ulthera SPT vs Hifu Macrofocus vs Hifu บุฟเฟ่
Ulthera SPT และ Hifu มีความแตกต่างกันทั้งในด้านพลังงานและผลลัพธ์ที่ได้ Ulthera SPT เป็นเครื่อง Original ที่มีพลังงานสูงกว่า Hifu Macrofocus ถึงสองเท่า ทำให้ผลลัพธ์คงทนและอยู่ได้นานกว่า แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่มากกว่าเช่นกัน หากการยิง Ulthera SPT ไม่รู้สึกเจ็บ อาจเกิดจากการที่แพทย์ใช้พลังงานต่ำลง หรือใช้การฉีดยาชา ซึ่งทั้งสองกรณีนี้จะทำให้ผลลัพธ์ลดลงจากที่ควรจะเป็น
จุดเด่นของ Ulthera SPT คือมีหน้าจอแสดงความลึกของการยิง เพื่อให้สามารถปล่อยพลังงานลงในชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
แพทย์ที่มีประสบการณ์ส่วนมากอาจเลือกที่จะไม่มองหน้าจอทุก Line แต่จะอาศัยความชำนาญในการยิงเพื่อลดเวลาในการทำลงให้เหลือ 40-60 นาทีต่อเคส
แม้ว่า Ulthera และ Hifu จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของพลังงานและความแม่นยำ แต่เมื่อพิจารณาความคุ้มค่าและราคา Hifu Macrofocus มักจะคุ้มค่ากว่าในแง่ของผลลัพธ์ต่อราคาที่จ่ายไปเมื่อเทียบ Line ต่อ Line
HIFU แตกต่างจากหัตถการอื่นๆ ในเรื่องไหนบ้าง?
ยกกระชับระดับเอสคลาส ที่ AES CLASS CLINIC พร้อมดูแลคุณทั้งรักสวยและรักษาดูแลผิวพรรณ ให้คุณรักตัวเองอย่างมั่นใจขึ้น ด้วยแพทย์เปี่ยมประสบการณ์ และเครื่องมือมาตรฐานระดับ Gold Standard ปรึกษาปัญหาผิวฟรี! ได้ที่ LINE
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HIFU
HIFU อยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์ผิวยกกระชับขึ้นตั้งแต่หลังทำและเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 1 เดือน และผลจะอยู่ได้นาน 6-8 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล)
ไฮฟูยกกระชับจริงไหม
การทำ HIFU สามารถยกกระชับผิวได้จริง เพราะใช้เครื่อง HIFU จากเกาหลีเกรดพรีเมียมปลอดภัย ทำให้เนื้อเยื่อหดตัวและผลิตคอลลาเจนใหม่ ให้ผลลัพธ์ผิวที่กระชับขึ้น
หลังทําไฮฟูห้ามทําอะไรบ้าง
หลังทำ HIFU ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัดๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไปทุกวัน งดทำซาวน่า และควรทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ
ทำไฮฟูอันตรายไหม
การทำ HIFU นั้นปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย ทั้งนี้ต้องทำไฮฟูโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีประสบการณ์การใช้เครื่องทำไฮฟูโดยตรงด้วย
HIFU ทําได้บ่อยแค่ไหน
แนะนำควรทำปีละ 1-2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น หากทำไฮฟูต่อเนื่องไปแล้ว 3 ครั้ง
ทำ HIFU มานอนตะแคงได้ไหม
หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหลังทำ HIFU เนื่องจากการนอนตะแคงทำให้ผิวบริเวณที่ทำไฮฟูอาจโดนบีบอัด เกิดริ้วรอยได้ง่าย แนะนำนอนหงายจะช่วยรักษาผิวได้เป็นอย่างดี
ทำ HIFU ใช้เวลากี่นาที
การทำ HIFU ใช้เวลาเพียง 40-60 นาที หลังทำ ไม่ต้องนอนพักฟื้น ไม่มีการผ่าตัด สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ
ทำ HIFU นวดหน้าได้ไหม
ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าหลังทำ HIFU ในระยะแรก เนื่องจากอาจทำให้ผิวบอบบางและเกิดการบาดเจ็บได้
ไฮฟู ช่วยเรื่องอะไร
หลักๆ แล้วการทำ HIFU ช่วยในเรื่องของการยกกระชับใบหน้า คาง ลำคอ และช่วยลดริ้วรอยระหว่างวัย ทั้งนี้ยังไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นผิวให้กลับมาอีกด้วย
หลังทำ HIFU โดนความร้อนได้ไหม
แนะนำหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ ควรทากันแดดป้องกันแสงแดด และไม่ควรอบซาวน่า หรือออกกำลังกายที่ใช้กำลังเยอะ