รีจูรัน คืออะไร เติม Rejuran ดีไหม รีจูรัน ราคาเท่าไหร่ 2567
อยากผิวใส ฉ่ำโกลว์ นวัตกรรมอีกหนึ่งตัวนอกจากการทำ Sculptra หรือการเติมฟิลเลอร์แล้วนั้น ที่เราอยากแนะนำเพิ่มเติมนั่นคือการเติมรีจูรัน เป็นนวัตกรรมผิวเทคโนโลยีจากเกาหลีที่เข้ามาช่วยดูแลความงามให้ผิวสวย ที่ AES CLASS CLINIC เรามีบริการเติม Rejuran ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลี (KFDA) และไทย แล้วรีจูรัน คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจ เรามีข้อมูลให้คนที่สนใจเติมรีจูรันกัน
รีจูรัน คืออะไร นวัตกรรมผิวโกล์วจากเกาหลี
Rejuran คือการดูแลและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยี Polynucleotide (PN) บริสุทธ์ ซึ่งหลังเติมรีจูรันจะช่วยเพิ่มไฟโบรบลาสต์ให้ผิว ซึ่งจะเข้าไปช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวคงรักษาความชุ่มชื้น และแก้ปัญหาผิวบริเวรณริ้วรอยใบหน้า ลำคอ รอยแผลเป็น แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง รอยแดงและรอยคล้ำใต้ตา เป็นต้น
Rejuran มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
Rejuran ทำงานโดยการฉีดสาร Polydeoxyribonucleotide (PDRN) ซึ่งสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน เข้าไปในชั้นผิวหนังระดับกลาง สาร PDRN นี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว Rejuran จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิวจากภายใน ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสมากขึ้น กระบวนการนี้เป็นการฟื้นฟูผิวที่ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
Rejuran ช่วยอะไร ?
- ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น โดยมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน
- ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ และลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ Rejuran ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
- ต้านการอักเสบ ซึ่งช่วยลดอาการแดงและบวมของผิว ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีด Rejuran ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Rejuran สามารถฉีดในหลายตำแหน่งบนใบหน้าและร่างกายเพื่อฟื้นฟูผิวและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ ดังนี้
- ใบหน้า ทั่วใบหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอย
- บริเวณรอบดวงตา ช่วยลดริ้วรอยและความหมองคล้ำรอบดวงตา
- ร่องแก้มและรอบปาก เพื่อลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับบริเวณที่มีร่องลึก
- ลำคอ ช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวบริเวณลำคอ
- หลังมือ ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณหลังมือ
- หลุมสิวและแผลเป็น ฉีดเฉพาะจุดเพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ลดรอยแผลเป็นจากสิวหรือแผลอื่น ๆ
การฉีด Rejuran ในตำแหน่งต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น โดยควรได้รับการประเมินและฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Rejuran มีการรับรอง อย. ไทยไหม ?
Rejuran Skin Booster ที่นำมาใช้นั้นคือตัว Rejuran Healer หรือ Rejuran Rejuvenation (PN) ซึ่งหลายคนอาจรู้จักในชื่อ Rejuran กล่องดำ หรือ Rejuran Classic ตัวยานี้ถูกคิดค้นและผลิตจากประเทศเกาหลี และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลี (KFDA) รวมถึงได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยในปี 2565 นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสำหรับการใช้ฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
- Rejuran Skin Booster ที่นำมาใช้นั้นมีหลากหลายสูตร โดยตัวที่นิยมใช้กันมากคือ Rejuran Healer หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Rejuran Classic” ซึ่งมาพร้อมกับกล่องดำและเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู กระชับรูขุมขน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เนื้อเจลของ Rejuran Healer มีความหนืดปานกลาง เหมาะสำหรับการฉีดทั่วใบหน้า
นอกจาก Rejuran Healer แล้ว ยังมีสูตรอื่น ๆ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย เช่น Rejuran i และ Rejuran S ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
- Rejuran i ซึ่งบรรจุในกล่องขาว ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการลดริ้วรอยรอบดวงตาและรอบปาก เนื้อเจลของ Rejuran i มีความหนืดน้อยที่สุด ทำให้สามารถฉีดได้อย่างแม่นยำในบริเวณที่ต้องการฟื้นฟู
- Rejuran S หรือกล่องสีน้ำเงิน ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวที่มีปัญหารอยแผลเป็นจากสิวหรือแผลอื่น ๆ โดยเนื้อเจลของ Rejuran S มีความหนืดมากที่สุด ทำให้คงตัวได้นานในบริเวณที่ฉีด ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวหนังให้เรียบเนียนและลดรอยแผลเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ
รีจูรัน ของแท้ดูยังไงได้บ้าง?
รีจูรัน ราคาเท่าไหร่ อัปเดตราคาเติมรีจูรันล่าสุด 2567
รีจูรัน ราคาเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล สามารถให้แพทย์ผู้ชำนาญการออกแบบการรักษาได้ฟรี ก่อนที่จะตัดสินใจเติมรีจูรัน ทั้งนี้การเติมรีจูรันที่ AES CLASS CLINIC เรามีแพ็กเกจสุดคุ้มมากมาย เพื่อให้ทุกคนมีผิวสวย + รักษาด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการของเรา
เติมรีจูรัน
ที่ AES CLASS Clinic (เอสคลาสคลินิก)
ปรึกษาฟรี! พร้อมออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคุณ
เพียงเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ และพิมพ์ “เติมรีจูรัน”
Rejuran เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น
- ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของความชรา เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย หรือผิวที่ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด มลภาวะ หรือรอยแผลเป็นจากสิว
- ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส และยืดหยุ่นมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวจากภายใน
ก่อนฉีด Rejuran มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?
ก่อนการฉีด Rejuran มีข้อควรระวังหลายประการที่ควรพิจารณาเพื่อให้การรักษามีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้:
- ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ที่สำคัญ เช่น การแพ้ยา ประวัติการติดเชื้อหรือโรคผิวหนัง โรคที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน หรือโรคประจำตัวที่อาจมีผลต่อการรักษา
- หากกำลังใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน หรือยาอื่น ๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกง่ายหลังการฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ก่อนการฉีด Rejuran เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมและรอยช้ำ
- หากมีอาการติดเชื้อ หรือการอักเสบของผิวหนัง เช่น สิวอักเสบ ผื่น หรือแผล ควรเลื่อนการฉีดออกไปจนกว่าผิวจะหายดี
- การฉีด Rejuran อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บเล็กน้อยในบางบริเวณ การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น
- ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความคาดหวังและผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์จะช่วยแนะนำว่าการรักษาด้วย Rejuran เหมาะสมกับคุณหรือไม่ และควรปรับใช้สูตรใดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ก่อนและหลังเติมรีจูรัน ต้องทำอะไรบ้าง?
สำหรับก่อนการเติมรีจูรัน ไม่ต้องงดน้ำหรืองดรับประทานอาหารใดๆ มีเพียงแค่ ผู้ที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDS ควรหยุดยาก่อนและหลังทำอย่างน้อย 1 สัปดาห์
ขั้นตอนการเติมรีจูรัน มีดังนี้
- แพทย์ประเมินผิว ออกแบบการรักษา จำนวนที่ใช้ให้ได้ผลลัพธ์ตรงกับปัญหาผิวของคุณ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษา
- พนักงานทำความสะอาดผิวและทายาด้วยเทคนิคลดเจ็บเฉพาะของ AES CLASS CLINIC ที่เจ็บน้อยกว่า และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- เมื่อเช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณที่ทายาชาแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการรักษา โดยใช้เวลาประมาณ CC ละ 30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษา
- หลังเติมรีจูรันเสร็จพนักงานทำความสะอาดผิว
วิธีดูแลผิวหลังเติมรีจูรัน
- งดจับ สัมผัส และห้ามให้ผิวบริเวณที่รักษาโดนน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการตากแดดและทำกิจกรรมกลางแจ้งประมาณ 1 สัปดาห์
- ห้ามทำเลเซอร์หลังรักษา 1 สัปดาห์
- เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์หลังรักษา
Rejuran ฉีดแล้วเจ็บไหม ?
การฉีด Rejuran อาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระหว่างการรักษา ความรู้สึกนี้มักเกิดจากการใช้เข็มฉีดที่เข้าสู่ผิวหนัง และการที่ตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวลึก โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบอบบางหรือบริเวณที่มีความไวต่อความรู้สึก เช่น รอบดวงตา
อย่างไรก็ตาม คลินิกส่วนใหญ่จะใช้ยาชาเฉพาะที่ (topical anesthetic) หรือประคบเย็นก่อนทำการฉีดเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ และเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายมากขึ้นระหว่างการรักษา หลังฉีดอาจมีผิวแดงเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ หายไปภายใน 1-2 วัน
Rejuran ต้องฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
ผลลัพธ์จากการฟื้นฟูผิวด้วย Rejuran จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนหลังจากผ่านไปประมาณ 4 สัปดาห์ โดยการรักษาควรทำต่อเนื่องจำนวน 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์
- ครั้งแรก ภายใน 3-5 วัน ผิวจะเริ่มรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้น
- ครั้งที่ 2 ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังฉีด ผิวจะเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยลดลง และรูขุมขนกระชับมากขึ้น
- ครั้งที่ 3 ผิวจะยกกระชับและแข็งแรงขึ้นภายใน 4-6 วันหลังฉีด
- ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย ผลลัพธ์จะชัดเจนมาก โดยผิวจะยกกระชับ รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วรอยลดลง และผิวจะมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้นอย่างสมดุล
ควรฉีด Rejuran กี่ CC ?
Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) มีหน่วยเป็นมิลลิลิตร (ml) โดยใน 1 หลอดจะมีปริมาณ 2 ml และบรรจุในกล่องละ 2 หลอด รวมเป็น 4 ml ในการฉีดแต่ละครั้ง โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณระหว่าง 2-4 ml ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฟื้นฟู
- หากฉีดทั่วหน้า จะใช้ปริมาณ 4 ml
- หากฉีดเฉพาะบริเวณแก้ม จะใช้ปริมาณ 2 ml
- หากฉีดบริเวณคอหรือมือ จะใช้ปริมาณ 2 ml
การกำหนดปริมาณการฉีดขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการรักษาและความต้องการของผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสมในการรักษาแต่ละครั้ง
ข้อแนะนำการเติม Rejuran
- แนะนำเติมรีจูรันทั่วใบหน้า ไม่ควรจำกัดแค่จุดใดจุดหนึ่ง
- สามารถเติม Rejuran ใช้ร่วมกับการเติมฟิลเลอร์ ได้ แต่เติมบริเวณชั้นผิวที่แตกต่างกัน และควรเติมห่างกันอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
Rejuran เปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น
เมโสหน้าใสมีหลายยี่ห้อที่แต่ละตัวมีจุดเด่นเฉพาะตัวตามส่วนผสมที่แตกต่างกัน ดังนี้
- มาเด้คอลลาเจน (MADE Collagen) โดดเด่นในเรื่องของตัวยาที่มีส่วนผสมต่าง ๆ ที่ช่วยลดสิว ผดผื่น ลดการอักเสบ ขับสารพิษ ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดีและผิวแข็งแรงขึ้น
- Filorga / Revs เน้นปรับสีผิวและพื้นผิวให้เรียบเนียน ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและสุขภาพดี
- Tensonez / Depigment เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการเน้นความขาวใส ตัวยาไม่แสบมากและเห็นผลไว สำหรับผู้ที่ต้องการลดฝ้าและรอยจุดด่างดำ ตัวยาจะค่อนข้างแสบ แต่ผลลัพธ์ดีมาก
- Alpha Arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง แต่ตัวยามีความแสบมาก
- Neo Glutanex Glow มีจุดเด่นในเรื่องผิวขาวอมชมพู ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฝ้า กระ และหลุมสิว พร้อมกระชับรูขุมขน
- Exosome เน้นฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพผิว ทำให้หน้าใส ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู ฉ่ำเด้ง ดูสุขภาพดี เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดงจากสิว หรือรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน และผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น
นอกจากเมโสหน้าใสเหล่านี้ ยังมีตัวช่วยอื่น ๆ ที่เน้นการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปและต้องการรักษาผิวให้อ่อนเยาว์ เช่น:
- Gouri เป็นการฉีดสาร PCL (Polycaprolactone) ที่มาในรูปแบบของเหลว (Fully Liquid) ซึ่งสามารถละลาย 100% โดยไม่มีการตกค้างในร่างกาย มีคุณสมบัติเด่นในการฟื้นฟูและแก้ไขผิวที่เสื่อมสภาพตามวัยให้มีคุณภาพดีขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืน
- Sculptra ประกอบด้วยสาร Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ในชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับ อิ่มฟู และยืดหยุ่น ฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างชั้นลึก ทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- Radiesse Filler เป็นสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) ซึ่งนอกจากจะช่วยเติมเต็มแล้ว ยังฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับ ริ้วรอยลดลง และยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนานขึ้น
การเปรียบเทียบเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของ Rejuran และตัวเลือกอื่น ๆ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการในการดูแลผิวของตนเอง
Rejuran กับ Skin booster ต่างกันอย่างไร ?
ทั้ง Rejuran และ Skin booster ต่างก็เป็นการรักษาผิวที่ได้รับความนิยม แต่มีกลไกการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Rejuran ส่วนผสมหลัก คือ Polynucleotide ซึ่งเป็นสารสกัดจากดีเอ็นเอของปลาแซลมอน มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายจากมลภาวะและแสงแดด ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดเลือนริ้วรอย รูขุมขนกระชับ ผิวอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเสีย ผิวหมองคล้ำ และต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายใน
- Skin booster ส่วนผสมหลัก คือ Hyaluronic acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเอง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีเยี่ยม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ดูเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งขาดน้ำ ผิวขาดความชุ่มชื้น
ผลลัพธ์ของการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
Rejuran ฉีดที่ไหนดี ?
การเลือกสถานที่ฉีด Rejuran เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเลือกได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ควรเลือกสถานที่ที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีด Rejuran โดยเฉพาะ แพทย์ที่มีความรู้และทักษะจะสามารถประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำที่ถูกต้องได้
- คลินิกควรมีใบอนุญาตที่ถูกต้องและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือสมาคมแพทย์ผิวหนัง ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงเพื่อประเมินคุณภาพของบริการ
- คลินิกควรมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยและสะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยในการรักษา
- ก่อนการรักษา ควรมีการให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม และเพื่อให้คุณเข้าใจถึงกระบวนการและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- แม้ว่า Rejuran จะเป็นการรักษาที่มีราคาสูง แต่ควรเลือกคลินิกที่เสนอราคาสมเหตุสมผลตามคุณภาพของบริการ ไม่ควรเลือกที่ราคาถูกเกินไปเพราะอาจไม่ปลอดภัย
- บริการหลังการรักษา: คลินิกที่ดีควรมีการติดตามผลหลังการฉีดและให้คำแนะนำในการดูแลผิวหลังการรักษา เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและผิวฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
การเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและแพทย์ผู้ชำนาญการจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการฉีด Rejuran และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
เติมรีจูรัน รีวิวจากลูกค้า AES CLASS CLINIC
ยกกระชับระดับเอสคลาส ที่ AES CLASS CLINIC พร้อมดูแลคุณทั้งรักสวยและรักษาดูแลผิวพรรณ ให้คุณรักตัวเองอย่างมั่นใจขึ้น ด้วยแพทย์เปี่ยมประสบการณ์ และเครื่องมือมาตรฐานระดับ Gold Standard ปรึกษาปัญหาผิวฟรี! ได้ที่ LINE
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ รีจูรันคืออะไร?
Rejuran กับ Exosome ต่างกันยังไง
การเติมรีจูรัน เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ส่วนการเติม Exosome เน้นช่วยลดการอักเสบของผิว เสริมเกราะให้ผิวแข็งแรง
Rejuran ดีจริงไหม
การเติมรีจูรันนั้นนอกจากเป็นการดูแลผิวที่ง่ายและสะดวกแล้ว ยังได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ลดริ้วรอย ปรับผิวให้กระชับขึ้น
เติม Rejuran ถาวรไหม
การเติมรีจูรันต้องเติมเป็นระยะๆ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและการประเมินจากแพทย์ โดยทั่วไปเมื่อเติมได้ครบจำนวนครั้ง อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี แล้วแต่ปริมาณและความถี่ในการเติมด้วย
PICO กับ Rejuran ต่างกันยังไง
PICO เป็นการดูและผิวด้วยเลเซอร์รักษาชั้นผิวต่างๆ ส่วน Rejuran เป็นการเติมสารสกัดจากนำโปรตีนที่กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน
เป็นสิวเติมรีจูรันได้ไหม
สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินก่อนการรักษา และการเติมรีจูรันช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากปัญหาสิว รอยแผลเป็นได้ดี
รีจูรันเติมใต้ตาได้ไหม
สามารถเติม Rejuran บริเวณใต้ตา เพื่อปรับปรุงผิวให้กระชับ ลดริ้วรอยและปัญหาถุงใต้ตาได้
รีจูรันช่วยเรื่องอะไร
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น และยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากความเสียหายต่างๆ เช่น รอยแผลเป็น ผิวหยาบกร้าน นอกจากนี้ยังปรับปรุงบริเวณผิวที่มีปัญหา เช่น ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ถุงใต้ตา
เติมรีจูรันห้ามกินอะไร
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน และงดการรับประทานอาหารรสเผ็ดจัดหรือมีรสชาติจัดจ้าน เพราะแอลกฮอล์สามารถขัดขวางการทำงานของผิวได้
เติมรีจูรัน โดนแดดได้ไหม
ไม่ควรให้ผิวถูกแสงแดดมากเกินไป แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในเวลากลางวัน
รีจูรัน ของแท้ดูยังไง
สามารถสังเกตได้ที่บริเวณมุมกล่องจะมีสติ๊กเกอร์ โฮโลแกรม สามารถสแกนเพื่อรีเช็กข้อมูล เรื่องการรับรองว่าได้มาตรฐานหรือไม่